UFABETWINS ทำอย่างอังกฤษ
UFABETWINS ช้ากว่าใครแต่แจ๋วกว่าใคร
พรีเมียร์ลีกอังกฤษเพิ่งจะใช้ VAR เป็นฤดูกาลแรกหลังจากปล่อยให้ลีกอื่นๆ ชิงใช้นำหน้ากันไปก่อนแล้ว
แต่เมื่อใช้ปุ๊บก็เห็นความแตกต่างนะครับ กลายเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาอีกให้กับการตัดสินด้วยภาพวีดีโอไปเลย
จังหวะล้ำหน้าของราฮีม สเตอร์ลิง ที่หลุดไปจ่ายให้ กาเบรียล เชซุส ทำประตูแต่ถูกปฏิเสธเพราะ VAR นั้นคือพระเอกของงาน
เป็น VAR ที่สมบูรณ์แบบกว่า VAR ที่เคยเห็น เพราะเป็น 3 มิติ ตีเส้นดิ่งลงมาแตะพื้นสนามแล้วขีดแนวเส้นที่พื้นให้เห็นเลย
เส้นสีแดงของซิตี้ เส้นสีน้ำเงินของเวสต์แฮม ดูง่าย เข้าใจง่าย
เพราะภาพนิ่งที่เราเห็นจากการใช้ VAR ทั่วไปนั้นแม้จะชัดแล้วแต่ในบางมุมมันก็ยังไม่ชัดพอ ต้องใช้สายตากะเอาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่ก้ำกึ่งมากๆ อย่างไหล่เบียดไหล่หรือหัวเข่าเหลื่อมกันนิดเดียว
ยังไม่ต้องพูดถึงมุมกล้องของภาพนิ่งนั้นหลายครั้งก็หลอกตาเพราะไม่ได้เป็นภาพจากมุมมองตั้งฉากกับเส้นข้างสนามโดยตรงตามสายตาผู้ช่วยผู้ตัดสิน
กระทั่งได้เห็น VAR ของพรีเมียร์ลีกในจังหวะนี้ ก็เลยถึงบางอ้อว่า.. ก็จริงแฮะ อังกฤษทั้งที มาช้าหน่อยแต่.. เนี้ยบ
ความรู้สึกแรกของผมหลังเห็นประตูของเชซุสลูกนั้น ถูกริบเพราะหัวไหล่ของสเตอร์ลิงเลยแนวกองหลังตัวสุดท้ายไปแค่ระดับมิลลิเมตรนั้นคือ “โอ้โห.. ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เรื่องมากไปหน่อยหรือ”
รู้สึกว่ามันเกินไป ต้องละเอียดยุบยับขนาดนั้นเลย แม้ในใจลึกๆ จะยังเห็นว่าล้ำนิดเดียวก็คือล้ำก็เถอะ
แต่พอเห็นเส้นประที่ตีแนวดิ่งลงมาบนพื้นแล้วลากให้เห็นเป็นเส้นสีแดง-สีน้ำเงินแสดงถึงแนวของทีมรับ-ทีมรุกก็ชัดเจน ความขุ่นใจทุกอย่างก็เคลียร์ นี่กระมังที่ทำให้อังกฤษยอมใช้ VAR ช้ากว่าเพื่อนๆ
ถ้าใช้แล้วธรรมดา อย่าเพิ่งรีบใช้ จะใช้ทั้งทีต้องดีที่สุด
พรีเมียร์ลีกอังกฤษเพิ่งจะใช้ VAR เป็นฤดูกาลแรกหลังจากปล่อยให้ลีกอื่นๆ ชิงใช้นำหน้ากันไปก่อนแล้ว
แต่เมื่อใช้ปุ๊บก็เห็นความแตกต่างนะครับ กลายเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาอีกให้กับการตัดสินด้วยภาพวีดีโอไปเลย
จังหวะล้ำหน้าของราฮีม สเตอร์ลิง ที่หลุดไปจ่ายให้ กาเบรียล เชซุส ทำประตูแต่ถูกปฏิเสธเพราะ VAR นั้นคือพระเอกของงาน
เป็น VAR ที่สมบูรณ์แบบกว่า VAR ที่เคยเห็น เพราะเป็น 3 มิติ ตีเส้นดิ่งลงมาแตะพื้นสนามแล้วขีดแนวเส้นที่พื้นให้เห็นเลย
เส้นสีแดงของซิตี้ เส้นสีน้ำเงินของเวสต์แฮม ดูง่าย เข้าใจง่าย
เพราะภาพนิ่งที่เราเห็นจากการใช้ VAR ทั่วไปนั้นแม้จะชัดแล้วแต่ในบางมุมมันก็ยังไม่ชัดพอ ต้องใช้สายตากะเอาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่ก้ำกึ่งมากๆ อย่างไหล่เบียดไหล่หรือหัวเข่าเหลื่อมกันนิดเดียว
ยังไม่ต้องพูดถึงมุมกล้องของภาพนิ่งนั้นหลายครั้งก็หลอกตาเพราะไม่ได้เป็นภาพจากมุมมองตั้งฉากกับเส้นข้างสนามโดยตรงตามสายตาผู้ช่วยผู้ตัดสิน
กระทั่งได้เห็น VAR ของพรีเมียร์ลีกในจังหวะนี้ ก็เลยถึงบางอ้อว่า.. ก็จริงแฮะ อังกฤษทั้งที มาช้าหน่อยแต่.. เนี้ยบ
ความรู้สึกแรกของผมหลังเห็นประตูของเชซุสลูกนั้น ถูกริบเพราะหัวไหล่ของสเตอร์ลิงเลยแนวกองหลังตัวสุดท้ายไปแค่ระดับมิลลิเมตรนั้นคือ “โอ้โห.. ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เรื่องมากไปหน่อยหรือ”
รู้สึกว่ามันเกินไป ต้องละเอียดยุบยับขนาดนั้นเลย แม้ในใจลึกๆ จะยังเห็นว่าล้ำนิดเดียวก็คือล้ำก็เถอะ
แต่พอเห็นเส้นประที่ตีแนวดิ่งลงมาบนพื้นแล้วลากให้เห็นเป็นเส้นสีแดง-สีน้ำเงินแสดงถึงแนวของทีมรับ-ทีมรุกก็ชัดเจน ความขุ่นใจทุกอย่างก็เคลียร์ นี่กระมังที่ทำให้อังกฤษยอมใช้ VAR ช้ากว่าเพื่อนๆ
ถ้าใช้แล้วธรรมดา อย่าเพิ่งรีบใช้ จะใช้ทั้งทีต้องดีที่สุด
พรีเมียร์ลีกอังกฤษเพิ่งจะใช้ VAR เป็นฤดูกาลแรกหลังจากปล่อยให้ลีกอื่นๆ ชิงใช้นำหน้ากันไปก่อนแล้ว
แต่เมื่อใช้ปุ๊บก็เห็นความแตกต่างนะครับ กลายเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาอีกให้กับการตัดสินด้วยภาพวีดีโอไปเลย
จังหวะล้ำหน้าของราฮีม สเตอร์ลิง ที่หลุดไปจ่ายให้ กาเบรียล เชซุส ทำประตูแต่ถูกปฏิเสธเพราะ VAR นั้นคือพระเอกของงาน
เป็น VAR ที่สมบูรณ์แบบกว่า VAR ที่เคยเห็น เพราะเป็น 3 มิติ ตีเส้นดิ่งลงมาแตะพื้นสนามแล้วขีดแนวเส้นที่พื้นให้เห็นเลย
เส้นสีแดงของซิตี้ เส้นสีน้ำเงินของเวสต์แฮม ดูง่าย เข้าใจง่าย
เพราะภาพนิ่งที่เราเห็นจากการใช้ VAR ทั่วไปนั้นแม้จะชัดแล้วแต่ในบางมุมมันก็ยังไม่ชัดพอ ต้องใช้สายตากะเอาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่ก้ำกึ่งมากๆ อย่างไหล่เบียดไหล่หรือหัวเข่าเหลื่อมกันนิดเดียว
ยังไม่ต้องพูดถึงมุมกล้องของภาพนิ่งนั้นหลายครั้งก็หลอกตาเพราะไม่ได้เป็นภาพจากมุมมองตั้งฉากกับเส้นข้างสนามโดยตรงตามสายตาผู้ช่วยผู้ตัดสิน
กระทั่งได้เห็น VAR ของพรีเมียร์ลีกในจังหวะนี้ ก็เลยถึงบางอ้อว่า.. ก็จริงแฮะ อังกฤษทั้งที มาช้าหน่อยแต่.. เนี้ยบ
ความรู้สึกแรกของผมหลังเห็นประตูของเชซุสลูกนั้น ถูกริบเพราะหัวไหล่ของสเตอร์ลิงเลยแนวกองหลังตัวสุดท้ายไปแค่ระดับมิลลิเมตรนั้นคือ “โอ้โห.. ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เรื่องมากไปหน่อยหรือ”
รู้สึกว่ามันเกินไป ต้องละเอียดยุบยับขนาดนั้นเลย แม้ในใจลึกๆ จะยังเห็นว่าล้ำนิดเดียวก็คือล้ำก็เถอะ
แต่พอเห็นเส้นประที่ตีแนวดิ่งลงมาบนพื้นแล้วลากให้เห็นเป็นเส้นสีแดง-สีน้ำเงินแสดงถึงแนวของทีมรับ-ทีมรุกก็ชัดเจน ความขุ่นใจทุกอย่างก็เคลียร์ นี่กระมังที่ทำให้อังกฤษยอมใช้ VAR ช้ากว่าเพื่อนๆ
ถ้าใช้แล้วธรรมดา อย่าเพิ่งรีบใช้ จะใช้ทั้งทีต้องดีที่สุด
พรีเมียร์ลีกอังกฤษเพิ่งจะใช้ VAR เป็นฤดูกาลแรกหลังจากปล่อยให้ลีกอื่นๆ ชิงใช้นำหน้ากันไปก่อนแล้ว
แต่เมื่อใช้ปุ๊บก็เห็นความแตกต่างนะครับ กลายเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาอีกให้กับการตัดสินด้วยภาพวีดีโอไปเลย
จังหวะล้ำหน้าของราฮีม สเตอร์ลิง ที่หลุดไปจ่ายให้ กาเบรียล เชซุส ทำประตูแต่ถูกปฏิเสธเพราะ VAR นั้นคือพระเอกของงาน
เป็น VAR ที่สมบูรณ์แบบกว่า VAR ที่เคยเห็น เพราะเป็น 3 มิติ ตีเส้นดิ่งลงมาแตะพื้นสนามแล้วขีดแนวเส้นที่พื้นให้เห็นเลย
เส้นสีแดงของซิตี้ เส้นสีน้ำเงินของเวสต์แฮม ดูง่าย เข้าใจง่าย
เพราะภาพนิ่งที่เราเห็นจากการใช้ VAR ทั่วไปนั้นแม้จะชัดแล้วแต่ในบางมุมมันก็ยังไม่ชัดพอ ต้องใช้สายตากะเอาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่ก้ำกึ่งมากๆ อย่างไหล่เบียดไหล่หรือหัวเข่าเหลื่อมกันนิดเดียว
ยังไม่ต้องพูดถึงมุมกล้องของภาพนิ่งนั้นหลายครั้งก็หลอกตาเพราะไม่ได้เป็นภาพจากมุมมองตั้งฉากกับเส้นข้างสนามโดยตรงตามสายตาผู้ช่วยผู้ตัดสิน
กระทั่งได้เห็น VAR ของพรีเมียร์ลีกในจังหวะนี้ ก็เลยถึงบางอ้อว่า.. ก็จริงแฮะ อังกฤษทั้งที มาช้าหน่อยแต่.. เนี้ยบ
ความรู้สึกแรกของผมหลังเห็นประตูของเชซุสลูกนั้น ถูกริบเพราะหัวไหล่ของสเตอร์ลิงเลยแนวกองหลังตัวสุดท้ายไปแค่ระดับมิลลิเมตรนั้นคือ “โอ้โห.. ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เรื่องมากไปหน่อยหรือ”
รู้สึกว่ามันเกินไป ต้องละเอียดยุบยับขนาดนั้นเลย แม้ในใจลึกๆ จะยังเห็นว่าล้ำนิดเดียวก็คือล้ำก็เถอะ
แต่พอเห็นเส้นประที่ตีแนวดิ่งลงมาบนพื้นแล้วลากให้เห็นเป็นเส้นสีแดง-สีน้ำเงินแสดงถึงแนวของทีมรับ-ทีมรุกก็ชัดเจน ความขุ่นใจทุกอย่างก็เคลียร์ นี่กระมังที่ทำให้อังกฤษยอมใช้ VAR ช้ากว่าเพื่อนๆ
ถ้าใช้แล้วธรรมดา อย่าเพิ่งรีบใช้ จะใช้ทั้งทีต้องดีที่สุด
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
คลิกเลย >>> https://www.circorinstrumentation.com/