UFABETWINS ‘แม็คไกวร์’ รับกันลูกเซ็ตพีซท้ายเกมไม่ดีทำทีมเสียแต้ม
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่าความผิดพลาดจากการป้องกันลูกตั้งเตะช่วงท้ายเกมเป็นต้นเหตุทำให้ทีมเสียประตู หลังเกมที่เปิดบ้าน เซาธ์แฮมป์ตัน 2-2
ทัพ “ปีศาจแดง” มาโดนทีเด็ดจากลูกเตะมุมของ “นักบุญ” ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+6 และเป็น จาก ไมเคิล โอบาเฟมี่ ที่ยิงตีเสมอจนทำให้พวกเขาพลาดโอกาสขยับขึ้นอันดับ 3 ไปอย่างน่าเสียดาย
“เมื่อเราเหลือแค่ 10 คน สิ่งเดียวที่ทำได้คือการป้องกันลูกเซ็ตพีซ มีสมาธิกับมันและเคลียร์บอลออกนอกกรอบ แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้น”
“เราจะทำแบบนี้ไม่ได้ หากเรายังอยากจะไปในที่ๆเราต้องการ”
“แนวทางที่เราพยายามจะเล่นและตั้งบอลขึ้นมาจากหลัง มันมีหลายจังหวะที่เราอาจถูกฉกบอลไปได้ แต่เราก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนๆในทีมทำได้ดีมาก”
“พวกเรามีโอกาสที่จะปิดเกมได้หลายครั้ง ในครึ่งหลังเราต้องทำได้ดีกว่านี้ มันเป็นอะไรที่น่าผิดหวังจริงๆ”
‘โซลชาร์’ ชี้เสียท้ายเกมเกิดขึ้นได้ แต่ต้องเก็บไว้เป็นบทเรียน
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่าการเสียประตูท้ายเกมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในโลกฟุตบอล และมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของบทเรียน หลังเกมที่เปิดบ้านเสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-2
ทัพ “ปีศาจแดง” ต้องมาพลาดโอกาสขยับขึ้นอันดับ 3 ไปอย่างน่าเสียดาย หลังมาโดนประตูตีเสมอช่วงทดเจ็บจาก ไมเคิล โอบาเฟมี่ ทำให้พวกเขายังคงรั้งอยู่ที่อันดับ 5 เท่าเดิม
“มันเป็นช่วงที่แย่ที่สุดสำหรับการเสียประตู แต่มันก็เกิดขึ้นปกติในโลกฟุตบอล เราก็ชนะแบบนี้มาหลายครั้งเหมือนกัน ทุกอย่างมันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้สำหรับทีมนี้” โซลชาร์ กล่าวกับ Sky Sports หลังจบเกม
“มันน่าผิดหวังเมื่อคุณคิดว่าเรามี 3 แต้มในกระเป๋าแล้ว แต่บางทีวันนี้เราอาจจะไม่สมควรได้รับ 3 แต้มนั้น”
“เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นทีมที่ดีมาก พวกเขาวิ่งไล่ตามบอลตลอด วันนี้พวกเราหาจังหวะของตัวเองไม่ได้เลย มีบางจังหวะที่เราเล่นได้อย่างมหัศจรรย์ สองประตูที่เราทำได้มันก็เยี่ยมมากจริงๆ มันเป็นเพียงแค่วันแย่ๆวันหนึ่งที่เราคว้าโอกาสไว้ไม่ได้ และพวกเขาเป็นฝ่ายคว้ามันไป”
“การ์ดตก” ทดเจ็บทำผียังเป็นได้แค่ “ผู้ตาม”
มีคนบอกว่าในเกมฟุตบอลถ้าคุณนำคู่แข่งแค่ลูกเดียวไม่ต่างอะไรกับการที่คุณถือ ”ระเบิด” เอาไว้ในมือ
มันจะเป็นได้ทั้งอาวุธที่ระเบิดใส่ศัตรู หรือ ใส่หน้าคุณ และเกมที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด มันเป็นอย่างหลังครับ
“ปีศาจแดง” กำลังจะคว้า 3 แต้มอยู่มะรอมมะร่อและเป็นชัยชนะ 5 นัดรวดแต่แค่ลูกเตะมุมช่วงทดเจ็บนาทีที่ 6 พังทุกอย่างทันที
โดนลูกแบบนี้มันเจ็บแสบนะครับเพราะไม่เหลือเวลาให้แก้ตัว แค้นแค่ไหนก็ทำได้แค่เจ็บใจ ต่างกับครึ่งแรกที่โดนไปก่อน 1-0 แต่ยังมีเวลาเหลือเฟือให้ตามไล่ทวงคืนจนพลิกแซงนำ
เอาจริงๆเกมของ แมนฯยูไนเต็ด พบ เซาแธมป์ตัน ชวนให้ผมนึกถึงวันที่เล่นกับ แอสตัน วิลล่าเพราะรูปเกมและสถานการณ์แทบถอดแบบกันมา
ทันทีที่เสียงนกหวีด คิกออฟ เริ่มขึ้น “นักบุญ” ใช้การเพรสสูง คือทุกครั้งที่แข้ง ยูไนเต็ด พยายามตั้งบอลขึ้นมาจากหน้าเขตโทษตัวเองจะมีผู้เล่นของทีมเยือน 6 คนเสมอ
3 คนไล่ด่านแรกส่วนอีก 3 คอยตามพวกมิดฟิลด์ซึ่งแน่นอนครับ กองหลัง “ปีศาจแดง” ไม่ชอบการถูกเพรสและกัดไม่ปล่อยจนท้ายที่สุด พอล ป็อกบา ที่ลงมาขอบอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วพลิกบอลแบบ “ซื่อๆ” จน แดนนี่ อิงกส์ ฉกลงท้ายด้วยเป็นประตูขึ้นนำ
แรชฟอร์ด, หมาก และ กรีนวู้ด ไม่มีส่วนร่วมใดๆกับเกมเพราะบอลขึ้นไม่ได้
อย่างที่ผมบอกเอาไว้ก่อนเกมว่า เซาแธมป์ตัน ชอบเหลือเกินเล่นนอกบ้าน เล่นดีจนติดอันดับ 5 แต่ยามเล่นในบ้านทุเรศจัดครับ (แต่ แมนฯซิตี้ ก็ยังอุตสาห์บุกไปแพ้) มีเพียง นอริช ทีมเดียวที่ห่วยกว่า
ดูจากสไตล์การเล่นคงต้องบอกว่าลูกทีมของ ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิล จะอันตรายเวลามีพื้นที่ พวก อิงส์, อดัม, อาร์มสตรอง และ เร้ดมอนด์ เก็บบอลเล่นเข้าขากันไหลลื่นมาก
ที่สำคัญทั้งทีมเคาะบอลสามารถแก้ลูกที่เสียเปรียบจนสามารถกลับมาตั้งเกมใหม่ได้ในหลายๆครั้ง
และที่ทำให้ผมได้กลิ่นอาย “หงส์แดง” ในวันนี้คือนอกจากเพรสสูงของ เซาธ์แล้ว ทุกๆครั้งที่ทีมเยือนเสียบอลผมจะเห็นนักเตะวิ่งกรูเพื่อแย่งกลับคืนมาให้เร็วที่สุด
การเล่นแบบนี้ใช้แรงเยอะครับ ถ้าไม่ฟิตจริง ไม่ต้องถึงครึ่งหลังหรอกครับ ก่อนจบครึ่งแรกก็หมดได้เลย พอดี “นักบุญ” เป็นรองแค่ “หงส์แดง” ในเรื่องเพรสซิ่งเลยทำออกมาได้ดีเอามากๆ
แต่จุดเปลี่ยนของฟุตบอลมันมีเสมอครับ ในระหว่างที่ “ปีศาจแดง” กำลังถูกรบกวนจากการเล่นบอลเขี้ยวของเซาแธมป์ตันก็มาได้ประตูตีเสมอ
ผมว่าวันนี้ทีมเยือนจุดอ่อนอยู่ที่ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส นะ ใครเลี้ยงกระชากหน่อยมีหลุด เหมือนน้องแกยืนตำแหน่งอ่านทางบอลไม่ค่อยดี ลูกที่โดนก็คุมแรชฟอร์ดห่าง และเลือกจะไปพะวงกับ “หมาก” ที่มีเพื่อนตามอยู่แล้ว สุดท้ายพอหมากไหลให้ แรช จึงเผด็จศึกโล่งๆ
ทันทีที่สกอร์เป็น 1-1 ยังไม่ทันไรแค่ 3 นาที “ปีศาจแดง” ก็พลิกนำเฉย แถมเป็นการแกะเพรสได้ซะด้วย (ใช้เวลาจากแดนหลังขึ้นมาประมาณ 11 วินาที) ซึ่งก็รู้ๆกันครับทีมไหนเพรสไม่อยู่โดนแก้ได้มีหลุดยาวครับ ก่อนที่ มาร์กซิยาล จะกระชากหนี ปีเตอร์ส คนดีคนเดิมแล้วยิงยัดไส้เป็น 2-1
ครับ โดนแบบนี้ เซาธ์ เลิกเพรสสูงทันทีครับ กลายเป็น ยูไนเต็ด ได้สร้างเกมจากแดนหลังขึ้นมาแบบไม่มีใครรบกวนเท่าช่วงต้นเกม
ครึ่งหลังก็เป็นเจ้าถิ่นไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไร และก็เน้นเจาะตรง ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส แบ็คขวานั่นแหละครับ ทำชิ่งกันดีๆหลุดไปเปิดได้เกือบทุกครั้ง
ยูไนเต็ด มีโอกาสปิดเกมเป็น 3-1 อยู่หลายหนโดยเฉพาะลูกยิงจ่อๆของ แรช และลูกโซโล่ของ หมาก แต่ความคมแบบในครึ่งแรกของทั้งสองคนดันมาผิดเวลาไปหน่อย
แล้วเกมนี้ผมว่าน่าจะเป็นเกมแรกที่ บรูโน่ แฟร์นานเดซ ไม่ “ว้าว” เหมือนที่ผ่านๆมารวมถึง ป็อกบา ที่กลับมาสู่ร่างเดิมจนทั้งคู่ถูกเปลี่ยนตัวออกซึ่ง เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ ก็ไม่ได้ช่วยให้แดนกลางดีขึ้นกว่าเดิมซักเท่าไหร่
จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้คือเจ้าหนู วิลเลียมส์ ดันมาเจ็บจนต้องออกจากสนามและ “ปีศาจแดง” เปลี่ยนตัวไปแล้ว 3 รอบจึงไม่เหลือโควต้าและต้องเล่น 10 ตัวในช่วงทดเจ็บก่อนมาโดนตีเสมอ โอบาเฟมี่ ที่เรียกว่าตำแหน่งการยืนและการตกของบอลมันพอดีไปทุกอย่างจริงๆ
แม้ผมมองว่า “นักบุญ” วันนี้สมควรได้อะไรกลับออกไปแต่ในมุมของ เร้ดอาร์มี่ มาโดน 2-2 ตอนยังเหลือเวลาแล้วทำไม่ได้มันไม่น่าเสียดายเท่าโดนตอนทดเจ็บ เหมือนแฟนมาบอกเลิกตอนวันเกิดยังไงยังงั้นแหละครับ
จากกำลังจะงาบที่ 3 อีกไม่กี่นาทีรวมถึงจะหมุนสถานการณ์เป็นผู้กุมชะตาชีวิตตัวเองโดยไม่ต้องสนใจทีมอื่น
แต่ตอนนี้ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 5 ตามเดิมและยังคงสภาพในฐานะผู้ไล่ตามที่ต้องรอให้ทีมอื่นพลาดเหมือนเดิม เป็นสถานะที่ไม่ค่อยจรรโลงใจนักเมื่อพิจารณาจากการที่โปรแกรมมันบีบเข้ามาเหลือแค่ 3 เกม
ทั้งนี้และทั้งนั้นหากมองจากผลงานหลัง restart เป็นต้นมาและ performance ของ บรูโน่, ป็อกบา , มาร์ซิยาล หรือแม้กระทั่ง กรีนวู้ด (ที่ไม่ใช่เกมนี้)
ผมว่า ยูไนเต็ด ณ เวลานี้ดีเกินกว่าจะไปเล่นใน ยูโรป้า ลีก ครับ…
อ่านต่อได้ที่ >>> https://www.circorinstrumentation.com/
เครดิตโดย >>> https://www.ufabetwins.com/